ขั้นตอนสุดท้ายหลังจากที่ตกลงปลงใจจะซื้อนั้นก็คือการเซ็นต์สัญญา ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เราควรตรวจสอบสัญญาการซื้อขายให้ดีก่อนตัดสิยใจเซ็นต์ชื่อ เพราะหากมีเรื่องผิดพลาด หรือเดือดร้อนขึ้นขึ้นมาจะได้มีตัวช่วยในการเรียกร้องกับเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรได้ ดังนั้นจะให้ดีเราควรอ่านสัญญาซื้อขายบ้านจัดสรรทุกบรรทัด ให้เข้าใจในทุกประโยคในข้อสัญญา หากตรงไหนไม่เข้าใจ ก็ให้ถามให้ระเอียด อย่าอายหรือขี้เกียจที่จะถาม หรือไม่ก็ให้สอบถามจากผู้มีประสบการณ์หรือผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในการซื้อขายบ้านจัดสรร ให้แนะนำเรา ตรวจสอบข้อสัญญาให้ดี เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ตรวจสอบวัสดุที่ใช้สร้างบ้านของโครงการบ้านจัดสรรว่าเป็นอย่างไร คุณภาพเหมาะสมกับราคาหรือไม่ เช่น การดูพื้นบ้านใช้กระเบื้องอะไร ดูหลังคามุงด้วยวัสุดแบบไหน มีองศาที่เหมาะสมหรือเปล่า เพื่อป้องกันการรั่วซึมจากน้ำฝน โดยปกติแล้วความเอียงของหลังคาไม่ควรเอียงน้อยกว่า 10 องศา ดูระบบการเดินไฟ และระบบท่อน้ำของบ้านว่ามีการวางระบบดีหรือไม่ รั่วซึมหรือเปล่า และอยู่ในตำแหน่งที่ง่ายต่อการซ่อมแซมหรือไม่ เผื่อกรณีที่ชำรุจจะได้ซ่อมแซมได้อย่างง่ายดาย
นี่ก็เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกซื้อบ้านจัดสรรจากโครงการที่มีให้เลือกมากมาย ลองเอาแต่ละโครงการมาเปรียบเทียบ ข้อดี ข้อเสีย ของแต่ละโครงการดู อาจจะทำเป็นแบบทดสอบการตัดสินใจซื้อบ้านโดยมีการให้คะแนนตามเงื่อนไขที่เราตั้งขึ้นก็ได้ เพื่อใช้ช่วยในการตัดสินใจซื้อบ้านจัดสรรอีกทางหนึ่ง ยังไงก็แล้วแต่การขอคำชี้แนะจกผู้มีประสบการณ์นั้น จะช่วยให้การเลือกโครงการบ้านจัดสรรเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ไม่ต้องมานั่งลุ้นให้เหนื่อยในวันข้างหน้า